วันพุธที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2554

มาออกกำลังกายกันเถอะ

มาออกกำลังกายกันเถอะ 



 การออกกำลังกายไม่ได้หมายถึงการแข่งขันกีฬาเสมอไปแต่หมายถึงการเคลื่อนไหวร่างกาย เพื่อให้อวัยวะและระบบต่างๆของร่างกายเคลื่อนไหวอย่างครบถ้วน ทำไห้มีการสร้างเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ถ้าเราออกกำลังการอย่างสม่ำเสมอจะเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยป้องกันโรคต่างๆ และทำให้ร่างกาองกันโรคต่างๆ และทำให้แข็งแรงมีสุขภาพดีมเนื้อ่างกายแข็งแรงมีสุขภาพดี
            
   การออกกำลังการสามารถทำได้หลายวิธี สำหรับผู้ที่เริ่มออกกำลังกายก็ควรที่จะเริ่มออกกำลังกายอย่างเบาๆ เพื่อไม่ให้ร่างกายหรือกล้ามเนื้อเกิดการบาดเจ็บและจะทำให้ปวดได้ เช่น การเดินในระยะใกล้ๆแทนใช้รถยนต์ ขึ้นบันไดแทนการใช้ลิฟต์ หรือทำงานบ้าน เช่น ล้างรถยนต์ ทำสวน กวาดบ้านถูบ้าน หรือซักผ้า สำหรับผู้ที่ต้องการออกกำลังกายโดยการเล่นกีฬา ก็ควรที่จะมีการอบอุ่นร่างกายก่อนที่จะเล่นกีฬานั้นๆ และไม่หักโหมจนมากเกินไปจนทำให้ร่างกายเจ็บป่วยได้
        
 ประโยชน์ของการออกกำลังกายมีทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ด้านร่างกายก็คือทำให้ร่างกายแข็งแรงมีสุขภาพดี ป้องกันโรคต่างๆ และช่วยลดโอกาสการเกิดมะเร็งได้ร้อยละ 46 เมื่อเรามีสุขภาพกายที่ดีแล้วการออกกำลังกายยังให้เรามีสุขภาพจิตที่ดีด้วย การออกกำลังกายทำให้เราคลายเครียด มีความสุขและมีความสนุกสนาน เมื่อเราไปออกกำลังกายในที่ต่างๆจะทำให้เราได้พบปะกับผู้คนและรู้จักคนและมีเพื่อนเพิ่มมากขึ้น
             
  ถ้าได้อ่านมาถ้าตรงนี้ จะเห็นได้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างมีทั้งข้อดีและข้อเสีย เราต้องรู้จักคำว่าพอดี ถ้าเรารักครอบครัวและอยากจะอยู่กับครอบครัวของเราไปนานๆ เราก็ควรที่จะหันมาใส่ใจสุขภาพตั้งแต่วันนี้ ไม่มีคำว่าสายเกินไปสำหรับการออกกำลังกาย สำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นก็ควรที่จะค่อยๆเป็นค่อยๆไป และเราควรจะออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ สำหรับผู้ที่ชอบพูดว่าตัวเองไม่มีเวลา นับจากวันนี้ก็ควรที่จะแบ่งเวลาหันมาใส่ใจในสุขภาพตัวคุณเองบ้าง ไม่ใช่เพื่อตัวคุณอย่างเดียวแต่เพื่อครอบครัวของคุณด้วย เราควรออกกำลังกายอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ครั้งละไม่ต่ำกว่าครึ่งชั่วโมง และก็ควรเพิ่มระยะเวลาในการออกกำลังกายขึ้นเรื่อยๆอย่างเหมาะสม และถ้าจะดีมากถ้าคุณแบ่งเวลามาออกกำลังกายกับคนในครอบครัวอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา จะได้สร้างสัมพันธ์อันดีงามระหว่างคนในครอบครัว ทำให้เข้าใจกันมากขึ้น และสังคมไทยก็จะไม่มีปัญหาครอบครัวอีกต่อไป ถ้าคุณขี้เกลียดออกกำลังกาย ขอให้คุณคิดถึงคำว่า ออกกำลังกายวันนี้ เพื่ออนาคตที่ดีในวันข้างหน้า สุขภาพร่างกายที่ดีไม่สามารถซื้อหาจากที่ใดได้ เพราะฉะนั้นเรามาออกกำลังกายกันเถอะ


วันจันทร์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ภูมิปัญญาไทยกับการสร้างเสริมสุขภาพและการป้องกันโรคในชุมชน

ภูมิปัญญาไทย หมายถึง ความรู้ ความสามารถ ทักษะและเทคนิคการตัดสินใจ ผลิตผลงานของบุคคล อันเกิดจากการสะสมองค์-ความรู้ทุกด้านที่ผ่านกระบวนการสืบทอด พัฒนาปรับปรุง และเลือกสรรมาแล้วเป็นอย่างดีสามารถแก้ไขปัญหา และพัฒนาวิถีชีวิตของคนไทยได้อย่างเหมาะสมกับยุคสมัย


ภูมิปัญญาไทยกับการสร้างเสริมสุขภาพและการป้องกันโรคในชุมชน 

        ทุกชุมชนมีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง ทั้งประเพณี วัฒนธรรม และวิถีการดำเนินชีวิตซึ่งเอกลักษณ์ดังกล่าวได้ดำเนินขึ้นและสืบทอดโดยคน รุ่นก่อนในชุมชน มีการสั่งสมภูมิปัญญาด้านต่างๆ และผ่านการพัฒนาใช้ให้สอดคล้องกับวิถีชีวิต สิ่งแวดล้อม และทรัพยากรในชุมชน เช่น การแต่งกาย การรับประทานอาหาร การสร้างบ้านเรือน รวมถึงการดูแลรักษาสุขภาพและการบำบัดโรค ซึ่งผ่านการลองผิดลองถูกจนเกิดเป็นปัญญาในการสร้างเสริมสุขภาพและการป้องกัน โรคของชุมชน ตัวอย่างเช่น การรับประทานผักเพื่อบำรุงร่างกาย การรักษาโรคด้วยสุมนไพร การนวดไทยเพื่อบำบัด บรรเทาการเจ็บป่วย การประคบสมุนไพรรักษาอาการปวดเมื่อย เคล็ดขัดยอก หรือการอยู่ไฟเพื่อส่งเสริมและฟื้นฟูสุขภาพของผู้หญิงหลังคลอดบุตร เป็นต้น
        ภูมิปัญญาไทยจึงมีความสำคัญต่อสุขภาพในเรื่องของการบำบัด บรรเทา รักษาป้องกันโรคและการสร้างเสริมสุขภาพในชุมชน ให้มีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรง นอกจากภูมิปัญญาทางการแพทย์ของคนไทยจะช่วยส่งเสริมการมีสุขภาพที่ดีแล้วยัง ช่วยลดปัญหาสาธารณสุขของประเทศชาติได้ โดยช่วยรัฐบาลลดค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ลดการนำเข้ายารักษาโรค เวชภัณฑ์และเทคโนโลยีทางการแพทย์จากต่างประเทศที่เกินความจำเป็นให้ลดน้อยลง ซึ่งผลดีดังกล่าวจะเกิดขึ้นได้ต่อเมื่อคนไทยในชุมชนหรือท้องถิ่นต่างๆ รู้จักประยุกต์ใช้ทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่ในชุมชนของตนเองมาใช้ให้เกิด ประโยชน์ในการรักษาดูแลสุขภาพ รวมถึงการพึ่งพาภูมมิปัญญาของแพทย์ที่ถ่ายทอดมาจากบรรพบุรุษ มาใช้ในการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด





การแพทย์แผนไทยกับการสร้างเสริมสุขภาพและการป้องกันโรค /ยกตัวอย่าง

            กระบวน การทางการแพทย์เกี่ยวกับการตรวจ วินิจฉัย บำบัด รักษา หรือป้องกันโรค หรือการส่งเสริมแบะฟื้นฟูสภาพของมนุษย์หรือสัตว์ การผดุงครรภ์และเครื่องมือทางการแพทย์ ทั้งนี้ โดยอาศัยความรู้หรือตำราที่ได้ถ่ายทอดและสืบต่อกันมา (พระราชบัญญัติคุ่มครองและส่งผลภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย พ.ศ.2542)
การ แพทย์แผนไทยเป็นภูมิปัญญาไทยเพื่อการสร้างเสริมสุขภาพและการป้องกันโรคใน ชุมชนที่นักเรียนสามารถนำไปประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับชุมชนของตนเองได้ ดังตัวอย่างต่อไปนี้
             

  1.การนวดไทย เป็น ภูมิปัญญาอันล้ำค่าในการรักษาโรค การสร้างเสริมสุขภาพร่างกายและจิตใจของคนไทย ที่สืบทอดกันมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และจัดเป็นวัฒนธรรม วิถีชีวิตของคนไทยที่แสดงถึงการดูแลสุขภาพกันภายในครอบรัวเช่น ภรรยานวดให้สามี ลูกนวดให้ปู่ย่าตายาย โดยอวัยวะต่างๆ เช่น ศอก เข่า เท้า นวดให้กัน อีกทั้งยังมีการพัฒนาโดยใช้อุปกรณ์ช่วยในการนวด เช่น ไม้กดท้อง นมสาว การนวดไทย แบ่งออกได้เป็น 2 แบบ ได้แก่ การนวดแบบราชสำนัก และการนวดแบบเชลยศักดิ์ ประโยชน์ของการนวดไทยมีผลดีต่อสุขภาพในหลายๆด้าน เช่น การกระตุ้นระบบประสาท เพิ่มประสิทธิภาพของระบบทางเดินหายใจ ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบไหลเวียนโลหิตและน้ำเหลือง ลดการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อ และผ่อนคลายความตึงเครียดทางจิตใจ
              

  2.การประคบสมุนไพร เป็น ภูมิปัญญาทางด้านการแพทย์แผนไทยที่มีการสืบทอดจากบรรพบุรุษมาช้านาน โดยมีการใช้สมุนไพรห่อด้วยผ้าเป็นลูก เรียกว่า ลูกประคบ นำลูกประคบไปนึ่งให้ร้อนแล้วนำมาประคบบริเวณที่มีอาการปวดเมื่อย เคล็ด ขัดยอก จะช่วยบรรเทาอาการปวดได้ซึ่งสมุนไพรที่ใช้ทำลูกประคบส่วนใหญ่นั้นจะมัน น้ำมันหอมระเหย เมื่อนึ่งให้ร้อนแล้วแล้วน้ำมันหอมระเหยซึ่งเป็นตัวยาจะออกมากับไอน้ำและ ความชื้น และเมื่อประคบตัวยาเหล่านั้นจะซึมเข้าผิวหนัง ช่วยรักษาอาการเคล็ด ขัดยอก ลดอาการบวมอักเสบของกล้ามเนื้อ เอ็น และข้อต่อ นอกจากนี้ความร้อนจากลูกประคบยังช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ช่วยให้ตัวยาซึมผ่านผิวหนังได้ดีขึ้น อีกทั้งกลิ่นของน้ำมันหอมระเหยยังช่วยให้คลายเครียด เกิดความสดชื่นอีกด้วย
              

  3.น้ำสมุนไพร ผัก พื้นบ้านและอาหารเพื่อสุขภาพ อาหารและน้ำดื่มนอกจากจะช่วยให้ร่างกายเจริญเติมโตแข็งแรงอยูในภาวะปกติแล้ว อาหารและน้ำสมุนไพรบางชนิดที่นิยมรักประทานกันอยู่ในปัจจุบันยังช่วยรักษา โรคและอาการเจ็บป่วยต่างๆ ได้อีกตัว ซึงเกิดจากความเฉลียวฉลาดของบรรพบุรุษ ที่ได้คิดปรุงแต่งอาหารและเครื่องดื่มที่มีคุณค่าบำรุงร่างกาย โดยผ่านการผสมผสานองค์ความรู้ต่างๆ เข้ากับวิถีการดำเนินชีวิตของคนไทยได้อย่างกลมกลืน เช่น น้ำขิงช่วยขับลม แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ น้ำใบบัวบกแก้ร้อนใน กระหายน้ำ น้ำมะพร้าวช่วยขับปัสสาวะ ลดไข้ ทำให้สดชื่น ส่วนผักพื้นบ้านและพืชสมุนไพรไทยที่เป็นส่วนประกอบของเครื่องแกงในอาหารไทย มีสรรพคุณในการบำรุงรักษาร่างกายได้อย่างดี เช่น ในโหระพารสเผ็ดร้อนแก้เป็นลม วิงเวียน ตะไคร้แก้ปวดท้อง ลดความดันเลือด มะนาวมีรสเปรี้ยวป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟันฟักทองมีเบต้าแคโรทีนสูงช่วย บำรุงร่างกาย และมะขามใช้เป็นยาระบาย แก้โรคบิด เป็นต้น
           

     4.การทำสมาธิ สวด มนต์ และภาวนาเพื่อการรักษาโรค เป็นวิถีชีวิตและความเชื่อ ความศรัทธาต่อพระพุทธศาสนาของชาวไทยที่นิยมปฏิบัติสืบต่อกันมา จัดว่าเป็นภูมิปัญญาทางการแพทย์แผนไทยที่ช่วยสร้างเสริมสุขภาพได้เป็นอย่าง ดี โดยเฉพาะสุขภาพทางใจ เพราะการทำสมาธิสวดมนต์และภาวนาช่วยให้จิตใจที่สับสนและว่าวุ้นเกิดความสงบ มีความสุข ผ่อนคลายความเครียดมีสมาธิและเกิดปัญญา ในปัจจุบันมีการวิจัยทางการแพทย์พบว่า การสวดมนต์ ภาวนา และการทำสมาธิช่วยให้หัวใจทำงานหนักน้อยลง ส่งผลดีต่อปอด ระบบการหายใจ นอกจากนี้การนั่งสมาธินานๆ จะคลายความวิตกกังวล ร่างกายได้รับการพักผ่อนอย่างแท้จริง
           

     5.กายบริหารแบบไทย หรือ กายบริหารท่าฤาษีดัดตน เป็นภูมิปัญญาทางการแพทย์แผนไทยเกิดขึ้นจากการสิบทอดบอกเล่าต่อ ๆ กันมาของนักบวช นักพรต พระสงฆ์ หรือชาวพุทธที่นิยมนั่งสมาธิ วิปัสสนากรรมฐาน ซึ่งมีความแตกต่างกับท่าโยคะของอินเดีย โดยเป็นท่าที่ไม่ผาดโผน หรือฝืนร่างกายจนเกินไป บุคคลทั่วไปสามารถทำได้ และเมื่อปฏิบัติอย่างถูกต้องจะช่วยรักษาอาการปวดเมื่อย ช่วยให้การเคลื่อนไหวของแขน ขา หรือข้อต่อต่างๆ เป็นไปอย่างคล่องแคล่ว ทำให้เลือดหมุนเวียนได้ดี สร้างสมาธิ ผ่อนคลายความเครียด และเพิ่มประสิทธิภาพของการหายใจ