วันอังคารที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

โครงการสร้างเสริมสุขภาพคนในชุมชน

1.ชื่อโครงการ : โครงการวิ่งจ๊อกกิ้งรอบวัดสิงฆ์
2.หลักการและเหตุผล : ในการจัดโครงการนี้ขึ้นมาเพื่อส่งเสริมให้คนในชุมชนมีสุขภาพที่แข็งแรง อีกทั้งยังเป็นการป้องกันอาการเจ็บป่วยจากโรคต่างๆ และลดปัญหาการข้องเกี่ยวกับยาเสพติด นอกจากนี้ยังทำให้คนในชุมชนมีความสนิทสนมกันมากขึ้น สามัคคี ทั้งคนในชุมชนและวัด สร้างที่ชุมนุมและเป็นศุนย์กลางในชุมชน โครงการนี้ผู้เข้าร่วมสามารถเข้าร่วมได้ทุกเพศทุกวัยเหมาะสมกับคนในชุมชน ทำให้เกิดเป็นความร่วมมือร่วมใจในการร่วมกันทำกิจกรรมให้ดำเนินลุล่วงไปได้
3. วัตถุประสงค์ : 1. สร้างเสริมสุขภาพคนในชุมชนให้แข็งแรง
                           2. ทำให้ผู้เข้าร่วมโครงการมีความสามัคคีกัน
                           3. เพื่อป้องกันยาเสพติดไม่ให้เข้ามาในชุมชน
4. กลุ่มเป้าหมาย : คนในชุมชนวัดสิงฆ์ทั้งหมด ประมาณ 150 คน
5. วิธีดำเนินการ :       1.ศึกษาความต้องการในการจัดโครงการของคนในชุมชนทั้งหมด
                                2. รวบรวมความคิดเห็นที่ได้รับมาประเมินผลในการจัดทำโครงการ
                                3. จัดทำโครงการเสนอประธานชุมชนวัดสิงฆ์
                                4. ติดต่อสถานที่ ณ สถานที่ของวัดสิงฆ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดตรวจสุขภาพ
                                5. จัดโครงการสร้างเสริมสุขภาพคนในชุมชนเดือนละ 4ครั้ง/เดือน  โดยจัดทุกวันอาทิตย์ของเดือน
                                        6. ติดตามและประเมินผลการจัดโครงการสร้างเสริมสุขภาพคนในชุมชนวัดสิงฆ์
                                7. สรุปผลที่ได้จากการจัดโครงการสร้างเสริมสุขภาพคนในชุมชนวัดสิงฆ์
6. ระยะเวลาในการดำเนินการ : 2 เดือน

7. สถานที่ดำเนินการ : สนามกว้างของวัดสิงฆ์

8. งบประมาณ : 15000 บาท

9. ผลที่คาดว่าจะได้รับ :           1. การเข้าร่วมกิจกรรมตรวจสุขภาพและการวิ่งจ๊อกกิ้งของคนในชุมชนทุกคน
                                                                        2. อัตราเสี่ยงในการเกิดโรคของคนในชุมชนลดลง
                                                3. ความร่วมมือร่วมใจและความสามัคคีในการร่วมกันทำกิจกรรม
                                                4. คนในชุมชนมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงและสุขภาพจิตที่ดี

10. ผู้รับผิดชอบโครงการ : นายสุรวงษ์ อยู่สุข เลขที่ 6 ม.6/5




                         

วันพฤหัสบดีที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ต่อมหมวกไต ( Adrenal gland )

ต่อมหมวกไต ( adrenal gland ) 
  • ต่อมหมวกไตตั้งอยู่ที่ด้านบนของไตทั้งสองข้าง จึงเรียกว่าต่อมหมวกไต แต่ละต่อมประกอบด้วยเนื้อเยื่อ 2 ชั้นคือ
    • ต่อมหมวกไตด้านนอกหรืออะดรีนัลคอร์เทกซ์ ( adrenal cortex ) ประกอบด้วยเนื้อเยื่อที่แตกต่าง 3 ชนิด
    • ต่อมหมวกไตด้านในหรืออะดรีนัลเมดัลลา ( adrenal medulla )
      ซึ่งทั้งสองส่วนจะผลิตฮอร์โมนพวกสารสเตอรอยด์ที่ทำหน้าที่ต่างกัน
  • การสร้างฮอร์โมนจากต่อมหมวกไตส่วนนอกต้องอาศัยฮอร์โมน ACTH จากต่อมใต้สมองส่วนหน้ามากระตุ้น

  • ต่อมหมวกไตมีความสำคัญอย่างยิ่ง ถ้าร่างกายขาดฮอร์โมนจากต่อมหมวกไตจะไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ ฮอร์โมนในกลุ่มนี้จะ
    ควบคุมเมแทบอลิซึมของ คาร์โบไฮเดรท ไขมันและโปรตีน รักษาระดับสารน้ำในร่างกายและช่วยให้ร่างกายต่อสู้กับความเครียดต่อ
    เหตุการณ์ต่างๆทั้งในชีวิตประจำวันและยามฉุกเฉิน
ฮอร์โมนจากต่อมหมวกไตส่วนนอก

ต่อมหมวกไตด้านนอกหรืออะดรีนัลคอร์เทกซ์ (adrenal cortex) สร้างฮอร์โมนที่สำคัญ 3 กลุ่มคือ
  • ฮอร์โมนกลูโคคอร์ติคอยด์ ( glucocorticoids )
  • ฮอร์โมนมินเนอราโลคอร์ติคอยด์ (mineralocorticoid)
  • ฮอร์โมนเพศ ( sex hormone )

1.ฮอร์โมนกลูโคคอร์ติคอยด์

ฮอร์โมนกลูโคคอร์ติคอยด์ ( glucocorticoids ) ฮอร์โมนที่สำคัญในกลุ่มนี้ได้แก่ คอร์ติซอล (cortisol) 
เป็นฮอร์โมนที่จำเป็น(essential hormone) ที่มีความสำคัญต่อชีวิต ถ้าขาดฮอร์โมนกลูโคคอร์ติคอยด์ซึ่งเป็นฮอร์โมนจำเป็นจะมีผลอย่างมากต่อเซลล์ของร่างกาย
อวัยวะเป้าหมาย : เซลล์ตับ
หน้าที่ : เพิ่มระดับน้ำตาลในกระแสเลือด โดยจะกระตุ้นเซลล์ตับให้เปลี่ยนกรดไขมันและกรดอะมิโนบางตัวเป็นกลูโคส 
และเก็บสะสมไว้ในรูปของไกลโคเจน แล้วจะเปลี่ยนจากไกลโคเจนให้เป็นกลูโคสเพื่ื่อปล่อยเข้่าสู่กระแสเลือดเมื่อต้องการเพิ่ม
ระดับน้ำตาลในกระแสเลือดซึ่งเป็นขบวนการที่สำคัญ 
ความผิดปกติ : ถ้ามีฮอร์โมนกลุ่มนี้มากเกินไปจะทำให้เกิด โรคคูชชิง ( Cushing’s syndrome) พบในผู้ป่วยที่มีเนื้องอกของต่อมหมวกไตส่วนนอกหรือได้รับการรักษาด้วยยาหรือฮอร์โมนที่มีคอร์ติโคสเตรอยด์เป็นส่วนผสม
เพื่อป้องกันอาการแพ้ อักเสบติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน เกิดขึ้นได้ทั้งชายและหญิงโดยมีความผิดปกติเกี่ยวกับ
·         เมแทบอลิซึมของคาร์โบไฮเดรต ไขมันและโปรตีนทำให้ระดับน้ำตาลในกระแสเลือดสูงขึ้น
·         กล้ามเนื้ออ่อนแรงเนื่องจากมีการสลายโปรตีนและไขมันตามบริเวณแขนขา
·         อ้วน มีไขมันสะสมแกนกลางลำตัว ใบหน้ากลมคล้ายดวงจันทร์ หน้าท้องแตกลาย บริเวณต้นคอมีหนอกยื่นออกมา

2.ฮอร์โมนมินเนอราโลคอร์ติคอยด์

ฮอร์โมนมินเนอราโลคอร์ติคอยด์ (mineralocorticoid) ฮอร์โมนที่สำคัญในกลุ่มนี้ได้แก่ แอลโดสเตอโรน
(aldosterone) ทำหน้าที่ในการควบคุมความสมดุลของน้ำและแร่ธาตุในร่างกาย
อวัยวะเป้าหมาย : ไต ( ท่อหน่วยไต )
หน้าที่ : ช่วยในการทำงานของไต
·         ในการดูดน้ำและNa+ กลับเข้าสู่ท่อหน่วยไต
·         ขับ K+ ออกจากท่อหน่วยไต
·         ควบคุมความสมดุลของฟอสเฟต
ความผิดปกติ : ถ้าขาด แอลโดสเตอโรน aldosteroneจะทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำและโซเดียมไปพร้อมกับปัสสาวะ ส่งผลให้เลือดในร่างกายลดลงจนอาจทำให้ผู้ป่วยตายเพราะความดันเลือดต่ำ

3.ฮอร์โมนเพศ

ฮอร์โมนเพศ ( sex hormone ) ซึ่งสร้างปริมาณเพียงเล็กน้อย เท่านั้นเมื่อเปรียบเทียบกับที่สร้างจากอวัยวะเพศดังนั้น
  • ในวัยผู้ใหญ่ เมื่อหลั่งฮอร์โมนนี้ออกมามากจะไม่พบความผิดปกติ แต่ในวัยเด็ก ถ้าเป็นผู้ชาย จะทำให้เป็นหนุ่มเร็ว
    กว่ากำหนด
  • ส่วนในเพศหญิง เนื่องจากต่อมหมวกไต ส่วนนอกนี้ผลิตแอนโดรเจน (androgen) ถ้ามีการผลิตฮอร์โมนนี้มากซึ่งอาจ
    เกิดจากมีเนื้องอกที่ต่อมหมวกไต จะทำให้เกิดลักษณะของเพศชายได้ คือมีพฤติกรรมคล้ายผู้ชาย
    มีการสร้างโปรตีนที่ทำให้แขนขาใหญ่ มีหนวดเครา เสียงห้าว ไม่มีประจำเดือน มีขนขึ้นตามตัวและใบหน้า
ถ้าต่อมหมวกไตด้านนอก ถูกทำลายจะไม่สามารถสร้างฮอร์โมนทำให้เป็น โรคแอดดิสัน ( Addison’s disease ) 
ผู้ที่เป็นโรคนี้ร่างกายจะซูบผอม ผิวหนังตกกระ ร่างกายไม่สามารถรักษาสมดุลของแร่ธาตุได้ ซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้

ฮอร์โมนจากต่อมหมวกไตส่วนใน

ต่อมหมวกไตด้านในหรืออะดรีนัลเมดัลลา ( adrenal medulla ) : ต่อมหมวกไตส่วนในเป็นทั้งต่อมไร้ท่อและเป็นส่วนของประสาทซิมพาเทติก จะทำงานเมื่อเผชิญหน้ากับ ภาวะเครียด ตื่นเต้น ตกใจ กลัว หนีภัย เมื่อเจ็บปวดและออกกำลังกาย สร้างฮอร์โมน 2 ชนิด คือ
  • ฮอร์โมนเอพิเนฟริน ( epinephrine hormone ) หรือ อะดรีนาลิน (adrenalin hormone )
  • ฮอร์โมนนอร์อิพิเนฟริน ( norepinephrine hormone ) หรือ นอร์อะดรีนาลิน (noradrenalin hormone )

1.ฮอร์โมนเอพิเนฟริน
แหล่งที่สร้าง : ต่อมหมวกไตด้านในหรืออะดรีนัลเมดัลลา ( adrenal medulla )
อวัยวะเป้าหมาย : ตับ , หลอดเลือดแดงขนาดเล็ก ,หัวใจ
หน้าที่ :
·         เปลี่ยน ไกลโคเจนในตับให้เป็นกลูโคสเข้าสู่กระแสเลือดทำมีระดับกลูโคสเพิ่มขึ้นในกระแสเลือด
การเผาผลาญอาหารเพิ่มมากขึ้น ทำให้ร่างกายมีพลังมากขึ้น
·         กระตุ้นให้หัวใจบีบตัวแรงและเร็วขึ้น ทำให้เลือดลำเลียงออกซิเจนและกลูโคสไปให้เซลล์ร่างกายได้มากขึ้น
·         หลอดเลือดแดงขนาดเล็กที่บริเวณอวัยวะภายในต่างๆขยายตัว
·         หลอดเลือดแดงขนาดเล็กที่บริเวณผิวหนังและช่องท้องหดตัว

2.ฮอร์โมนนอร์เอพิเนฟริน
แหล่งที่สร้าง : ต่อมหมวกไตด้านในหรืออะดรีนัลเมดัลลา ( adrenal medulla )
อวัยวะเป้าหมาย : ตับ , หลอดเลือดแดงขนาดเล็ก ,หัวใจ
หน้าที่ :
·         เปลี่ยน ไกลโคเจนในตับให้เป็นกลูโคสเข้าสู่กระแสเลือดทำมีระดับกลูโคสเพิ่มขึ้นในกระแสเลือด
การเผาผลาญอาหารเพิ่มมากขึ้น ทำให้ร่างกายมีพลังมากขึ้น
·         กระตุ้นให้หัวใจบีบตัวแรงและเร็วขึ้น ทำให้เลือดลำเลียงออกซิเจนและกลูโคสไปให้เซลล์ร่างกายได้มากขึ้น
·         หลอดเลือดแดงขนาดเล็กที่บริเวณอวัยวะภายในต่างๆหดหรือบีบตัว
สมาชิกในกลุ่ม 
1.นายสุรวงษ์    อยู่สุข                  ม.6/5 เลขที่.6
2.นายชยวุตย์     กลั่นฤิทธิ์           ม.6/5 เลขที่.23
3.นายไชยวัฒย์  อรุณรัศมีโสภา    ม.6/5 เลขที่.24